ทุบยอดสถิติ แคเมอรอน สมิธ ยอดสวิงชาวออสเตรเลีย บันทึกชื่อในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์

ทุบยอดสถิติ แคเมอรอน สมิธยอดสวิงชาวออสเตรเลีย บันทึกชื่อในประวัติศาสตร์ ของการแข่งขันกอล์ฟ พีจีเอทัวร์ หลังจบการแข่งขันด้วยผลงาน 34 อันเดอร์พาร์258 หลังปิดเกม ด้วยการทำเบอร์ดี้ที่หลุม 18

คว้าแชมป์ เซนทรี ทัวร์นาเม้นท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.2565 ตามเวลาประเทศไทย ด้วยการเฉือน จอน ราห์มมือ 1 ของโลกชาวสเปนไปแค่สโตรคเดียว แมตช์นี้นับเป็นรายการเปิดซีซั่นของปี 2022 ในศึก พีจีเอทัวร์

ชิงเงินรางวัลรวม 8.2ล้านเหรียญสหรัฐ (262.4 ล้านบาท) แข่งขันระหว่างวันที่ 6-9 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ ไม่มีการตัดตัว โดยหลังจากจบการแข่งขัน รอบสุดท้าย สมิธนักกอล์ฟชาวออสเตรเลีย ที่ขึ้นนำมา ตั้งแต่รอบแรก

ทุบยอดสถิติ เก็บสกอร์เพิ่ม ในรอบนี้ เข้ามาอีก 8 อันเดอร์พาร์65 จากผลงาน 8 เบอร์ดี้ไม่มีเสียโบกี้เลย ทำสกอร์รวม 34 อันเดอร์พาร์258 เบียดชนะ จอน ราห์มสวิงเบอร์ 1 ของโลกชาวสเปน ที่ก่อนเริ่มรอบนี้ ยังนำร่วม แต่รอบนี้ ราห์มทำเพิ่มอีก 7 อันเดอร์พาร์66 โดนเฉือนไปสโตรคเดียว ข่าวกอล์ฟ

ทุบยอดสถิติ

แคเมอรอน สมิธ นักกอล์ฟชาวออสเตรเลีย ที่ขึ้นนำมาตั้งแต่รอบแรก

ทุบยอดสถิติ จากสกอร์รวม 34 อันเดอร์พาร์258 ของสมิธ ทำให้เขาเป็นนักกอล์ฟที่จารึกชื่อว่าได้ทำสกอร์อันเดอร์สนามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพีจีเอทัวร์ โดยมีนักกอล์ฟเพียงแค่ 3 คนในประวัติศาสตร์ของพีจีเอทัวร์ ที่ทำสกอร์ต่ำกว่า 30 อันเดอร์หรือมากกว่า

ซึ่งประกอบไปด้วย เออร์นี่ เอลส์ ที่ทำสถิติชนะด้วยสกอร์รวม 31 อันเดอร์ฯ ที่สนาม คาปาลัว เมื่อปี 2003 ด้วยการทิ้งห่างถึง 8 สโตรก ด้าน จอร์แดน สปีธ มาคว้าแชมป์ ด้วยสกอร์รวม 30 อันเดอร์ฯ ในปี 2016 และทิ้งคู่แข่ง 8 สโตรคเช่นกัน

และดัสติน จอห์นสัน มาคว้าแชมป์ที่ ทีพีซี บอสตัน ด้วยสกอร์รวม 30 อันเดอร์ฯ ในการแข่งขันเมื่อปี 2020 ทิ้งคู่แข่งถึง 11 สโตรค สมิธวัย 28 ปี กล่าวว่า “มันเป็นอะไร ที่ตึงเครียดสุดๆ และมันก็บ้ามากๆ ผมรู้สึกว่า ผมอยากจะทำ เบอร์ดี้ให้ได้มากที่สุด

เพื่อพยายามหนี ราห์มให้มากที่สุด มันเป็นการออกรอบ ที่น่าเหลือเชื่อ และจะอยู่ ในความทรงจำของผม” ด้าน ราห์มเผยว่า “มันไม่มีเหตุผลเลย ที่จะยิ้มไม่ออก มันอาจจะเป็นความรู้สึก ที่ขมขื่น ก็จริงที่แพ้ แต่มันก็เป็นผลงาน ที่สุดยอดจริงๆ

โดยเฉพาะกับ อุปสรรคลมในสนาม” ชัยชนะนี้ ทำให้สมิธ นอกจากจะคว้าเงินรางวัล 1.476 ล้านเหรียญสหรัฐ (47.232ล้านบาท) ยังทำให้เขากระโดดขึ้นมาถึง 30 อันดับมารั้งอันดับ 3 ในอันดับ เฟดเอกซ์คัพ อีกด้วย

ด้านราห์ม ที่คว้ารองแชมป์รับเงินรางวัลไป 810,000 เหรียญสหรัฐ (25.92ล้านบาท) สำหรับรายการต่อไปของศึกพีจีเอทัวร์ จะเป็นการแข่งขันรายการ โซนี่ โอเพ่น ซึ่งจะแข่งขันกัน ณ สนาม ไวอาเล คันทรี คลับ ใน โฮโนลูลู,

ทุบยอดสถิติ ฮาวาย แบบพาร 70 ระยะ7,044 หลา ชิงเงินรางวัล 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (240ล้านบาท) ระหว่างวันที่ 13-16 ม.ค.นี้ ต่อไป สวิงนำเดี่ยว