ประวัติศาสตร์ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือชั้น 33 ของโลก ฟอร์มดุ หวด 9 อันเดอร์พาร์ในวันสุดท้าย

ประวัติศาสตร์ โปรเมนักกอล์ฟสาวมือชั้น 33 ของโลก ฟอร์มดุ หวด 9 อันเดอร์พาร์ในวันสุดท้าย สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนแรกครองแชมป์กอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ได้สำเร็จ

การประลองกอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ รายการนี้ชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (51.2 ล้านบาท) ชิงชัยระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคม64 นี้ ณ สนามกอล์ฟ สยาม คันทรี คลับ พัทยา โอลด์ หลักสูตร แบบพาร์ 72 ระยะ 6,576 หลา แบบปิดสนามไม่มีผู้ชม

ตามมาตรการจากภาครัฐสำหรับเพื่อการคุ้มครองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ไม่มีการตัดตัว ซึ่งมีนักกอล์ฟร่วมหวดกันทั้งปวง 72 ราย และก็เป็นสาวไทยทั้งนั้น 10 ราย จบการแข่งขันรอบท้ายที่สุด โปรเมเอรียา รั้งอันดับ 9 ในวันที่สาม

การแข่งขันชิงชัยในวันนี้โปรเมระเบิดฟอร์มพัตเข้ามาถึง 9 อันเดอร์พาร์ ทำให้สกอร์รวม 4 วันจบที่ 22 อันเดอร์พาร์ 266 เชือดชนะ “โปรจีน”อาฒยา ความมีชีวิตอยู่กุล สาวจากจังหวัดราชบุรีไปแค่เพียงสโตรกเดียวแค่นั้น

ภายหลังที่ โปรจีน พัตเบอร์ดี้พลาดในหลุมท้ายที่สุดไปอย่างโชคร้าย จบที่ 21 อันเดอร์พาร์ 267 นับว่าเป็นแชมป์ที่ 11 ใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ของ โปรเมด้วย โปรเมเอรียา สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกซึ่งสามารถครองแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์

ตั้งแต่แมื่อมีการแข่งขันมาเมื่อปี 2006 พร้อมรับเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 7,440,000บาท การถ่ายทอดสดการประลองได้รับเกียรติจาก คุณพิษณุ นิลกลัด กูรูกอล์ฟคนมีชื่อเสียงของประเทศไทย

ประวัติศาสตร์ มาร่วมบรรยากาศการประลองสดๆให้แฟนกอล์ฟดูอย่างสนุก ข่าวกอล์ฟ

ประวัติศาสตร์

สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนแรกครองแชมป์กอล์ฟ ฮอนด้าแอลพีจีเอไทยแลนด์2021 ได้สำเร็จ

ประวัติศาสตร์ จบการแข่งขันชิงชัยในรอบท้ายที่สุดเกมมีดราม่าในช่วงท้าย ข้างหลัง โปรเม เอรียาจุฑานุกาล ที่รอบนี้ทำผลงานได้สุดฮอตด้วยวิธีการทำไป 9 เบอร์ดี้ 9 อันเดอร์พาร์ 63 โดยยิ่งไปกว่านั้นในหลุมท้ายที่สุดที่หวดชอตสองจากกึ่งกลางแฟร์เวย์ขึ้นมาออนระยะ 13ฟุต

ก่อนทำ 2 พัตต์เป็นเบอร์ดี้ที่ส่งให้เธอขึ้นมานำร่วมกับ โปรจีน อาฒยา การเป็นไปกุล สวิงสาวจากจังหวัดราชบุรี ที่อยู่ในกรุ๊ปข้างหลัง ด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์ ก่อนที่จะ โปรจีน จะไปพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 17 จากการพัตต์ระยะ 7ฟุต

และก็บีบให้หลุมในที่สุดจำเป็นจะต้องทำเบอร์ดี้เป็นอย่างต่ำเพื่อลุ้นไปเล่นเพลย์ออฟ หรือกลับเอาชนะ ภายหลังจากกลุ่มท้ายที่สุดที่มี โปรจีน อยู่ในกลุ่มหวดทีชอตไปแล้ว มีประจุไฟฟ้าลงทำให้การแข่งขันจะต้องพักไปเป็นเวลายาวนานกว่า 1 ชั่วโมง

ก่อนกลับมาเริ่มการประลองอีกทีในเวลา 16.00 น. โดยชอตที่ 2 จากแฟร์เวย์ โปรจีน หวดไปตกอยู่ขอบกรีนทางขวา ก่อนชิพเข้ามาเหลือระยะไม่ถึง 10 ฟุต แม้กระนั้นตอนท้ายสวิงสาววัย 18 ปี ก็พัตต์เบอร์ดี้จากระยะ 6ฟุต

เพื่อลุ้นไปเพลย์ออฟไม่ลง นำมาซึ่งการทำให้ โปรเมแปลงเป็นนักเล่นกอล์ฟหญิงไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะรายการนี้ ภายหลังจัดแจงแข่งรายการนี้เป็นปีที่ 14 โดยโปรเม รับแชมป์พร้อมเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 7.68 ล้านบาท)

รวมทั้งรับ 500 แต้มในอันดับ เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ ขยับจากอันดับ 56 ขึ้นมาอันดับ 14โปรเม วัย 25 ปี รับแชมป์ปัจจุบันในศึก สก๊อตติส โอเพ่น เมื่อปี 2018 กล่าวข้างหลังจบการประลองว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาแข่งในรายการนี้อีกที

ถึงแม้หนนี้จะอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์การแพร่ระบาด ไวรัส โควิด-19 ก็ไม่คิดว่าจะทำเป็น เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เม กำลังพบกับอุปสรรคต่อการเล่นตลอด ก่อนที่จะมารู้สึกถึงการเป็นแชมป์ใน 2 วันสุดท้าย และก็เป็นครั้งแรก

สำหรับในการลงเล่นรายการนี้โดยปราศจากความบีบคั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่จะตีหลุม 18 ในวันนี้ ที่บอกกับตนเองว่าจะเพียรพยายามทำให้เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าผลมันจะออกมาเช่นไร”

โปรจีน คว้าอันดับ 2 ที่สกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 ยืนยันแชมป์ รวมทั้งเงินรางวัล 148,877 เหรียญสหรัฐ (ราว 4.76 ล้านบาท) เปิดเผยข้างหลังจบการประลองว่า “เรียกว่าเป็นอะไรที่เกินคาดมากมาย ด้วยเหตุว่าไม่คิดว่ามีลุ้น

จนกระทั่งหลุมท้ายที่สุด จัดว่าได้ศึกษาอะไรมาก และก็ได้ผลจากหลักการทำงานของพวกเราก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งยังมีอีกหลายชนิดที่จะต้องปรับแต่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นลูกสั้น รวมทั้งแนวทางเล่น เนื่องจากก่อนหน้าที่ผ่านมาเล่นแบบไม่เป็นอันตรายไว้ก่อน

อีกอย่างก็ต้องการจะขอบคุณมากฮอนด้า ที่จัดให้มีการแข่ง แล้วก็เชิญชวนให้มาร่วมการประลอง ซึ่งนับว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาแวดวงกอล์ฟในบ้านพวกเรามากมาย แพ๊ตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ ผู้นำจาก 3 วันที่ผ่านมารอบนี้ทำเพิ่มได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์

รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 เท่ากับ อันเจล ยิน จากสหรัฐ, เอมี่ หยาง, แล้วก็ เรียว โซ ยอน จากเกาหลีใต้ ด้าน เชลล่า ชอย จากประเทศเกาหลีใต้ หวดเข้ามา 19 อันเดอร์พาร์ 269 รั้งอันดับ 7 ร่วมกับ ฮันน่าห์ กรีน จากประเทศออสเตรเลีย

โดยที่ กาบี้ โลเปซ และก็ แคโรไลน์ มาสซอน จากเยอรมัน รั้งอันดับ 9 ร่วม สำหรับรายการถัดไปของศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ จะกลับไปชิงชัยที่อเมริกา ในรายการ เพียวร์ ซิงค์ แชมเปี้ยนชิพ พรีเซนเต็ด บาย วิซิต วิลเลียมส์เบิร์ก

ประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีการแข่งขันที่ คิงส์มิลล์ รีสอร์ท, รีเวอร์ หลักสูตร ที่ วิลเลียมส์เบิร์ก, เวอร์จีเนีย ประเทศอเมริกา ระหว่างวันที่ 20-23 เดือนพฤษภาคมนี้ ชิงเงินรางวัลรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (41.6 ล้านบาท) ล่าแชมป์ต่อ